Home » ข่าวความเคลื่อนไหวสื่อ

นายกฯหั่นงบพีอาร์ช่วยแรงงานลิเบีย5ล้าน

Author by 3/03/11No Comments »

“อภิสิทธิ์”ไฟเขียวตัดงบพีอาร์ช่วยแรงงานในลิเบียออกสื่อ5ล้านบาท ชี้หากไม่สมเหตุผลตัดได้ แจงครม.แค่อนุมัติหลักการ ด้านสมาคมสื่อทีวีฯ จี้ทบทวน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงมติคณะรัฐมนตรี ที่อนุมัติงบประมาณงบกลางประจำปี 2554 จำนวน 343, 489, 000 บาท ช่วยเหลือแรงงานไทยในประเทศลิเบีย โดยในงบฯดังกล่าวมีการแฝงงบในการออกข่าวเผยแพร่ความคืบหน้าในการช่วยเหลือทางสื่อวิทยุ โทรทัศน์ จำนวน 10 ครั้งๆละ 5 แสนบาท รวมเป็นเงิน 5 ล้าน ว่า จริงๆแล้ววันที่นำเรืองเข้ามาพิจารณาในครม.นั้น มติครม.ยังไม่ได้อนุมัติรายละเอียด เป็นการอนุมัติรับทราบกรอบวงเงินซึ่งมีสองส่วน

ส่วนแรกคือการอำนวยการความสะดวกในการเดินทางกลับ ซึ่งเป็นในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ และส่วนที่สองเป็นการดูแลโดยกระทรวงแรงงาน แต่ว่ารายละเอียดทั้งหมดต้องผ่านการกลั่นกรองของสำนักงบประมาณก่อน

“ก็ไม่ได้อนุมัติตามที่มีการระบุตัวเลขตรงนั้นมาเพราะยังไม่มีเวลาในการกลั่นกรอง ผมยังไม่ทราบเลยครับว่ามีรายการว่าอย่างนี้ เพราะเราบอกว่าให้สำนักงบประมาณให้เข้าไปช่วยดู เพราะการช่วยเหลือมีหลักเกณฑ์ของมันอยู่ แต่ถ้างบนั้นไม่มีความสมเหตุสมผลก็สามารถตัดออกได้ เพราะถ้าไม่มีเหตุผลก็ต้องตัดอยู่แล้ว สำนักงานงบประมาณยุคนี้ผมยืนยันนะครับว่าเข้มข้นพอสมควรในการกลั่นกรอง”นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ครม.ไม่ได้ผ่านตากับข้อเสนอนี้เลยหรืออย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันมีรายละเอียด  แต่เราบอกว่าตรงนี้ทางครม.ไม่สามารถที่จะพิจารณาได้ เราพิจารณาในหลักการว่าความจำเป็นที่จะเข้าไปช่วยคืออะไร และให้สำนักงบประมาณเป็นผู้กลั่นกรองซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน

รมว.แรงงานยันใช้งบพีอาร์ 5 ล้าน ช่วยแรงงานลิเบียเข้าถึงสิทธิประโยชน์

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงาน เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวระบุว่ากระทรวงแรงงานใช้งบช่วยเหลือแรงงานไทยในลิเบีย 344 ล้านบาท โดยนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการออกสื่อประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโทรทัศน์และวิทยุ วงเงิน 5 ล้านบาท ว่า เป็นงบการประชาสัมพันธ์เบอร์โทรศัพท์ ของกระทรวงแรงงาน ผ่านสื่อมวลชนทุกแขนง เพื่อให้ญาติได้รับทราบเบอร์โทรศัพท์ช่วยเหลือ จะได้แจ้งข้อมูลและความเดือดร้อนของแรงงานไทยในลิเบียกลับมาที่กระทรวงแรงงาน รวมทั้งใช้เพื่อแจ้งสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาแล้วด้วย ซึ่งงบนี้เป็นงบฉุกเฉิน ที่ต้องเร่งดำเนินการภายใน 5 วัน 

“งบที่ครม.อนุมัติจำนวน 344 ล้านบาทนั้น เป็นการดำเนินงานของกรมการจัดหางาน ที่เสนอขอไป แต่ในรายละเอียดยังไม่ทราบ เพียงแต่รู้ว่ากรมการจัดหางานต้องการอยากจะประชาสัมพันธ์ให้ญาติพี่น้องของผู้ใช้แรงงานได้รับทราบถึงสิทธิประโยชน์ รวมทั้งต้องการให้คนที่เดือดร้อนได้ติดต่อกับกระทรวงแรงงานโดยตรง เพื่อที่จะดูแลในเรื่องของการหางานให้ทำในเมืองไทย” นายเฉลิมชัย กล่าว

สมาคมนักข่าววิทยุฯ จี้รัฐทบทวนงบ 5 ล้านพีอาร์แรงงานลิเบีย

ขณะที่สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ได้ออกแถลงการณ์ 2  มีนาคม  2554 ว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อมวลชนหลายแห่งว่า เมื่อวานนี้ (1 มี.ค. 54)  ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติงบประมาณ 746 ล้านบาท ให้กับกระทรวงการต่างประเทศ และ กระทรวงแรงงานเพื่อช่วยเหลือคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในประเทศลิเบีย โดยกระทรวงแรงงานแจกแจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายว่า จะใช้เงินส่วนหนึ่งของงบประมาณจำนวน 5 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าจ้างเผยแพร่ข่าวความคืบหน้าในการช่วยเหลือแรงงานในลิเบียทางสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์ จำนวน 10 ครั้งๆ ละ 5 แสนบาท
 สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย  ในฐานะองค์กรวิชาชีพด้านข่าว  ขอยืนยันว่าสื่อมวลชนทุกแขนงมีภารกิจที่สำคัญประการหนึ่งคือ การให้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม  โดยเฉพาะในภาวะวิกฤต หรือสถานการณ์ที่คนไทยได้รับความเดือดร้อนหรือผลกระทบ เพื่อให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที    ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวของสื่อมวลชนถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกันและเป็นสิ่งที่ต้องกระทำอยู่แล้ว   ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่หน่วยงานของรัฐ  / เอกชน หรือผู้เกี่ยวข้อง จะต้องเสียค่าใช้จ่าย เพื่อทำให้เป็นข่าว  เว้นแต่การจัดจ้าง เพื่อทำสื่อประชาสัมพันธ์หน่วยงาน   บุคคลหรือองค์กร  ซึ่งไม่จัดเป็นเนื้อหาประเภทข่าวหรือเนื้อหาที่มีสาระ หรือเป็นประโยชน์ต่อประชาชนผู้รับข่าวสารอย่างแท้จริง
 ด้วยเหตุนี้  องค์กรวิชาชีพสื่อทั้งสององค์กร จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ได้ตรวจสอบการเสนอขออนุมัติงบประมาณจำนวนดังกล่าวว่ามีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใด อีกทั้งขอให้กระทรวงแรงงานฯ ได้ทบทวนการตั้งงบประมาณในหมวดนี้ ให้ตรงกับสภาพความจำเป็นและความเดือดร้อนของประชาชน  เพื่อให้การใช้จ่ายเงินซึ่งเป็นภาษีของประชาชน เกิดประโยชน์และคุ้มค่ามากที่สุด
 ทั้งนี้ องค์กรวิชาชีพสื่อทั้งสองแห่งจะได้ทำหนังสือทักท้วงอย่างเป็นทางการ ไปยังนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และกระทรวงแรงงานฯ ต่อไป

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ 2 มี.ค. 54