กสทช.เตือนแก๊งต้มตุ๋นฟันหัวคิว ใบอนุญาตวิทยุชุมชนเกลื่อนอีสาน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1358824836&grpid=00&catid=&subcatid=

พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ งามสง่า กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ด้านกฎหมาย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการวิทยุชุมชนจำนวนไม่น้อยที่มาร้องเรียน กสทช.

ว่ามีกลุ่มผู้ไม่หวังดีอ้างชื่อของ กสทช. ในการหลอกลวงผู้ประกอบการที่ประสงค์จะยื่นคำขอทดลองประกอบกิจการกระจายเสียง (วิทยุชุมชน) ซึ่งการหลอกลวงจะเข้ามาในลักษณะรับอาสาเป็นนายหน้าในการขอรับคำขอ พร้อมทั้งจะอ้างตัวว่ารู้จักกับบุคคลที่เป็นบอร์ด กสท. และขอเก็บเงินค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมราว 25,000-30,000 บาท เพื่อแลกกับการการันตีใบอนุญาตโดยไม่ต้องเดินทางมายื่นเรื่องด้วยตนเองและไม่ต้องรอการอนุมัติผล โดยการหลอกลวงเช่นนี้พบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ ทางสำนักงาน กสทช. กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการเปิดให้ผู้ประกอบการยื่นคำขอทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง ตามประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การอนุญาตทดลองประกอบกิจการ พ.ศ.2555 โดย กำหนดให้ผู้ประกอบการที่มีอยู่รวมทั้งสิ้นกว่า 7 พันสถานี สามารถเข้ามายื่นเอกสารขอรับใบอนุญาตได้แก่ กสทช. ได้ตั้งวันที่ 20 กันยายน 2555-17 มกราคม 2556 และล่าสุดได้มีการขยายเวลารับเอกสารเพิ่มเติมไปจนถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2556 ซึ่งการพิจารณาให้ใบอนุญาตต้องดำเนินตามขั้นตอนและคุณสมบัติให้ครบถ้วน อีกทั้งขอย้ำว่า การยื่นแบบคำขอในขณะนี้ผู้ประกอบการต้องเดินทางมายื่นต่อ กสทช. ที่สำนักงาน กสทช. กรุงเทพฯ ที่เดียวเท่านั้น เนื่องจากในช่วงที่มีการต่อเวลาให้จะไม่มีทีมงานที่แท้จริงของ กสทช. เดินสายลงพื้นที่ต่างๆ เพื่อขอรับเอกสารแต่อย่างใด

“การพิจารณาใบอนุญาตฯนั้นๆ ทางเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสทช.จะต้องทำการตรวจสอบความครบถ้วนสมบูรณ์ของเอกสารและหลักฐานต่างๆ ก่อนที่จะนำเสนอเข้าที่ประชุม กสท.เพื่อให้บอร์ดกระจายเสียง ทั้ง 5 ท่าน พิจารณาร่วมกัน ขั้นตอนดังกล่าวจึงไปเป็นด้วยความรัดกุม ไม่สามารถใช้การพิจารณาส่วนตัวของใครคนใดคนหนึ่งได้ ทั้งนี้ ทางสำนักงาน กสทช.ขอให้ผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อ สามารถเข้าแจ้งความดำเนินคดี และหากผู้ประกอบการรายใดพบเบาะแส สามารถให้ข้อมูลเพื่อนำไปสู่การจับกุมได้ต่อไป” พ.ต.อ.ทวีศักดิ์กล่าว

(ที่มา:มติชนรายวัน 22 ม.ค.2556)