ข้อบังคับสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยว่าด้วยการเป็นสมาชิก พ.ศ. ๒๕๕๓
อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๑๐ (๒) ประกอบกับข้อ ๑๘ (๒) และ (๔) แห่งธรรมนูญสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย พ.ศ. ๒๕๕๒ คณะกรรมการสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยมีมติให้ออกข้อบังคับสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยว่าด้วยการเป็นสมาชิก พ.ศ. ๒๕๕๓”
ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในข้อบังคับนี้
“สมาชิก” หมายถึง องค์กรสมาชิกสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยและผู้ประกอบวิชาชีพข่าวในองค์กรสมาชิกตามข้อ ๖ แห่งธรรมนูญสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย พ.ศ. ๒๕๕๒ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกก่อตั้ง และสมาชิกสามัญที่ได้รับอนุมัติให้เป็นสมาชิก ตามข้อ ๖ แห่งข้อบังคับนี้
“ผู้ประกอบวิชาชีพข่าว” หมายถึง เจ้าของสถานี ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ บรรณาธิการผู้อำนวยการหรือหัวหน้าฝ่ายข่าว และให้หมายความรวมถึงผู้ประกอบการด้านข่าววิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ และผู้ปฏิบัติงานด้านข่าววิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ด้วย
“ผู้ปฏิบัติงานข่าววิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์” หมายถึง บรรณาธิการ หัวหน้ากองบรรณาธิการ บรรณาธิการบริหารหรือตำแหน่งควบคุมและดำเนินการงานกองบรรณาธิการหรือรายการข่าวที่เรียกชื่อเป็นอย่างอื่น และให้หมายความรวมถึงผู้สื่อข่าว ผู้เขียนข่าว ผู้เขียนบท ผู้ถ่ายภาพ ผู้ตัดต่อภาพ ผู้จัดทำกราฟฟิก ผู้ประกาศข่าว พิธีกร ผู้ที่ทำงานอยู่ในกองบรรณาธิการหรือฝ่ายข่าวหรือรายงานข่าวผู้ที่ทำงานเกี่ยวเนื่องกับการผลิตและออกอากาศข่าว หรือบุคคลอื่นตามที่สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยกำหนด
“คณะกรรมการ” หมายถึง คณะกรรมการสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
“เลขาธิการ” หมายถึง เลขาธิการสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
ข้อ ๔ ผู้สมัครเป็นสมาชิกสามัญ ต้องมีคุณสมบัติหรือไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
(๑)เป็นเจ้าของหรือผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงวิทยุหรือวิทยุโทรทัศน์ตามกฎหมายเกี่ยวกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์หรือเป็นบรรณาธิการหรือผู้อำนวยการฝ่ายข่าวหรือหัวหน้าฝ่ายข่าวของสถานีวิทยุกระจายเสียงหรือวิทยุโทรทัศน์ซึ่งมีผู้ดำรงตำแหน่งผู้ประกอบวิชาชีพข่าวหรือผู้ปฏิบัติหน้าที่เช่นเดียวกับผู้ประกอบวิชาชีพข่าว
(๒) ต้องยอมรับผูกพันและปฏิบัติตามธรรมนูญและข้อบังคับของสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
(๓) เป็นสถานีที่มีการเสนอข่าวสาร และไม่มีเนื้อหาสาระที่ขัดต่อจริยธรรมแห่งวิชาชีพ
(๔) เจ้าของหรือผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการหรือบรรณาธิการต้องไม่เคยต้องคำสั่งลงโทษในการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพอย่างร้ายแรงจากสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยหรือองค์กรวิชาชีพอื่น
(๕) เจ้าของหรือผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการหรือบรรณาธิการ ต้องไม่เคยเป็นผู้ปฏิบัติขัดต่อมติของสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และคณะกรรมการมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของคณะกรรมการทั้งหมดให้พ้นจากสมาชิกภาพ
(๖) ต้องได้รับการรับรองจากกรรมการสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย อย่างน้อย ๒ ท่าน หรือจากเจ้าของหรือผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการหรือบรรณาธิการของสมาชิกสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยอย่างน้อย ๒ องค์กร
ข้อ ๕ ผู้สมัครเป็นสมาชิกสามัญต้องทำเป็นหนังสือตามแบบพิมพ์ที่คณะกรรมการกำหนดยื่นต่อเลขาธิการ โดยชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าบำรุงรายปีตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
ข้อ ๖ ให้เลขาธิการนำคำขอสมัครเป็นสมาชิกสามัญตามข้อ ๕ เสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาในโอกาสแรกที่มีการประชุมคณะกรรมการมติอนุมัติให้เป็นสมาชิกสามัญต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของคณะกรรมการทั้งหมดมติของคณะกรรมการให้ถือเป็นที่สุด
ข้อ ๗ เมื่อคณะกรรมการมีมติอนุมัติหรือไม่อนุมัติการเป็นสมาชิกสามัญ ให้เลขาธิการแจ้งมติพร้อมเหตุผลแก่ผู้สมัครโดยมิชักช้า
ข้อ ๘ สมาชิกที่ไม่ชำระค่าบำรุงสมาชิกติดต่อกัน ๓ ปี ไม่มีสิทธิ์ในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นกรรมการสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกคณะกรรมการ และไม่มีสิทธิ์ขอใบรับรองการเป็นสมาชิก ทั้งนี้ไม่มีผลกระทบต่อการควบคุมจริยธรรมวิชาชีพของสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
ภายใต้บังคับข้อ ๑๒ แห่งธรรมนูญสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาชิกที่ไม่ชำระค่าบำรุงสมาชิกติดต่อกัน ๕ ปี ให้ถือว่าพ้นสถานภาพการเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
ประกาศ ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2553
นายวสันต์ ภัยหลีกลี้
ประธานสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย